1. จำนวน Lot ต่ำสุดในแต่ละบัญชี

สำหรับบัญชี Cent Fixed | Cent Pro จำนวน lot ต่ำสุดคือ 0.01 (หรือ 0.0001 Standard lot) สำหรับบัญชี Classic Fixed | Classic Proจำนวน lot ต่ำสุดคือ 0.01 สำหรับบัญชี Classic Standard จำนวน lot ต่ำสุดคือ 0.01

2. มูลค่าหรือขนาดสัญญา (Contract Size)

สำหรับตลาด Forex ขนาดสัญญาของ 1 Standard lot จะเท่ากับ 100,000 หน่วย และขนาดสัญญาของ 1 Cent lot จะเท่ากับ 1,000 หน่วย โดยคุณสามารถใช้ Leverage เพื่อช่วยเพิ่ม Purchasing Power ของเงินคุณท่านได้ – ตั้งแต่ 1:10 – 1:1000 สำหรับบัญขี Cent และ Classsic – ตั้งแต่ 1:10 – 1:200 สำหรับบัญขี Classic Standard หมายเหตุ ขนาดสัญญาของบัญชี Cent จะมีขนาดเล็กกว่าสัญญาปกติ 100 เท่า ( นั่นคือ 1 USDcent = 0.01 USD)

3. Leverage สูงสุด

ขึ้นอยู่ยอด Equity ของบัญชีของคุณ :
ตั้งแต่ $0 ถึง $1 000 1:4000
ตั้งแต่ $1 000 ถึง $5 000 1:2000
ตั้งแต่ $5 000 ถึง $10 000 1:1000
ตั้งแต่ $10 000 ถึง $100 000 1:500
ตั้งแต่ $100 000 ถึง $250 000 1:200
ตั้งแต่ $250 000 และมากกว่า 1:100

Markets4you ขอสงวนสิทธิ์ในการลดเลเวอเรจลงสูงสุดถึง 1:25 การลดเลเวอเรจเนื่องจากมีส่วนทุนเพิ่มขึ้นจะดำเนินการโดยอัตโนมัติ หากลูกค้าต้องการเพิ่มเลเวอเรจหลังจากส่วนทุนลดลง จะต้องปรับด้วยตนเองหรือติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า

4. มาร์จิ้น

คือ จำนวนเงินทุนที่จะถูกกันไว้ใช้เพื่อเปิดคำสั่งเทรดในตราสารใดๆ ซึ่งจำนวน Margin ที่จะใช้ในแต่ละออร์เดอร์ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของตราสารและขนาดของออร์เดอร์(lot) นั้นๆด้วย

หาก Lock Protection ถูกตั้งโดย Stop Loss หรือ Take Profit จากนั้นการปิดจะถูกปฏิเสธ และ Stop Loss หรือ Take Profit จะถูกตั้งค่าเป็นศูนย์

ข้อควรทราบ

1. ห้ามปิดคำสั่งซื้อขายที่อาจทำให้ตำแหน่งสุทธิหรือมาร์จิ้นสุทธิเพิ่มขึ้นภายในสอง (2) ชั่วโมงก่อนการหยุดการซื้อขายของตราสารและการปิดตลาดในวันศุกร์ ในช่วงเวลานี้สามารถเปิดตำแหน่งใหม่ได้โดยใช้เลเวอเรจที่ลดลง – 1:100 สำหรับฟอเร็กซ์, 1:40 สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ และ 1:20 สำหรับหุ้น (การเปลี่ยนแปลงเลเวอเรจอาจเกิดขึ้นตามดุลยพินิจของ Markets4you ได้ตลอดเวลาในช่วงสอง (2) ชั่วโมงก่อนการหยุดการซื้อขายของตราสารตั้งแต่วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี และการปิดตลาดในวันศุกร์ และอาจต่ำกว่าหรือสูงกว่าที่ระบุไว้ข้างต้น)

2. การปิดคำสั่งที่จะมีผลทำให้ Net position หรือ Net margin เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลา 30 นาทีก่อนประกาศข่าวสำคัญ ( ตามปฏิทินเศรษฐกิจที่มีสัญลักษณ์ ‘ปานกลาง’ หรือ ‘สูง’ ) และหรือในช่วงเวลา 30 นาทีหลังประกาศข่าวสำคัญ ( ตามปฏิทินเศรษฐกิจที่มีสัญลักษณ์ ‘ปานกลาง’ หรือ ‘สูง’ ) ที่คาดว่าจะมีความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้น โดยในช่วงเวลาดังกล่าวการเปิดคำสั่งใหม่ จะเปิดด้วย Leverage ใหม่ที่ 1:100 สำหรับ Forex และ 1:40 สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ ( การปรับเปลี่ยนเลเวอร์เลจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทาง Markets4youในช่วง 30 นาที ก่อนหรือหลัง การประกาศข่าวสำคัญ ซึ่งอาจจะลดลงมากกว่าที่กำหนดไว้)

โปรดทราบ สำหรับบางประเภทบัญชี หลักประกัน (Margin) จะถูกคำนวณใหม่ตามเลเวอเรจของบัญชีเมื่อตลาดเปิดในวันอาทิตย์

5. ค่าสวอป (Swaps)

จะถูกนำไปคำนวณโดยอัตโนมัติเมื่อมีการถือคำสั่งข้ามวันยังวันถัดไป หรือ การถือคำสั่งข้ามคืน ค่าสวอปจะคำนวณเพิ่มขึ้นสามเท่า ในวันพุธถึงวันพฤหัสบดี โดยที่สวอปจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามอัตราดอกเบี้ยของประเทศ

โปรดทราบว่า หากบัญชีซื้อขายนั้นอยู่ในเครื่องมือรวบรวมสภาพคล่อง MarketPlace ของเรา ค่าสวอปจะถูกนำมาคำนวณในเวลา 23:00 น. ตามเวลาเทอร์มินัล

หมายเหตุ สำหรับคู่สกุลเงินที่มี CAD และ RUB ค่าสวอปจะเพิ่มขึ้นสามเท่าตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันศุกร์

6. ระดับ Margin Call

Margin Call คือระดับ Margin ขั้นต่ำที่กำหนดให้รักษาไว้ในแต่ละบัญชี โดยจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จาก (Equity/Margin)x100 เราสามารถใช้ Margin Call เพื่อเป็น “Warning Border” ในการรักษาระดับเงินทุนเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ Stop Out – โดยในวันหยุดต่างๆระดับ Margin Call จะเพิ่มขึ้นเป็น 100% สำหรับบัญชีที่มี Leverage 1:100 และจะเพิ่มเป็น 500% สำหรับบัญชีที่มีการใช้ Leverage สูงสุด โดยโบรกเกอร์ขอสงวนสิทธิ์ในการห้ามการเปิด/ปิดคำสั่งเทรด Forex และลด Margin ลงไปที่ Margin call level หนึ่งหรือสองชั่วโมงก่อนที่จะปิดตลาด รวมทั้งการเปิดสถานะ Hedging ด้วย ระดับ Margin Call ของบัญชีต่างๆ ในช่วงเวลาปกติจะถูกกำหนดไว้ดังนี้ > Cent Fixed | Cent Pro — 50% ของ Equity > Classic Fixed | Classic Pro | Classic Standard— 100% ของ Equity

7. มาร์จิ้นที่ถูกล็อก (เฮดจ์)

คือ หลักประกันของการเปิดคำสั่งตรงกันข้ามในตราสารเดียวกัน และมีปริมาณคำสั่งเท่ากัน โดยหลักประกันนี้จะมีค่าเท่ากับศูนย์ อย่างไรก็ตามลูกค้าจะต้องมีเงินทุนเพียงพอในบัญชีเทรด เพื่อใช้เป็นหลักประกันในแต่ละคำสั่งที่ตรงข้ามกันนี้

8. ระดับ Stop Out

เมื่อระดับ Margin ลดลงจนถึงจุด Stop Out ซึ่งเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลให้ Balance ในบัญชีของลูกค้าติดลบ ระบบจะบังคับให้ปิดออร์เดอร์จนกว่าระดับ Margin จะเพิ่มขึ้นเหนือระดับ Stop Out โปรดทราบ > ระดับ Stop Out ไม่ควรถูกนำมาใช้เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยง – ในกรณีนี้จำเป็นจะต้องใช้คำสั่ง Stop Loss เพื่อป้องกันความเสี่ยงแทน > โปรดทราบ Pending orders ทั้งหมดจะถูกยกเลิกหลังจาก Margin ลดลงถึงระดับ StopOut / Credit StopOut หากบัญชีดังกล่าวมีการเทรดบน MarketPlace (Cent Pro/Classic Pro/Classic Standard)

9. การป้องกันตำแหน่งล็อก

เป็นฟังก์ชันที่จะปฏิเสธการปิดออร์เดอร์ที่ถูก Locked position ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การลดลงของ Equity ต่ำกว่าระดับ 100% ของ Margin ซึ่งในกรณีนี้คุณจะได้รับข้อความว่า «Not enough margin» ใน MT4 Terminal ในส่วนของ Mail Box โดยออร์เดอร์ที่ถูก Lock protection จะสามารถปิดได้โดยการคลิกขวาที่ออร์เดอร์นั้นและกดเลือกฟังก์ชัน “Multiply close by” ฟังก์ชั่น Lock Protection สามารถทำงานได้จากการที่ราคาเคลื่อนไปถูกจุด Stop Loss หรือจุด Take Profit ของออร์เดอร์ฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ได้ตั้งไว้ด้วยเช่นกัน และ Stop Loss / Take Profit และจะถูกเซตค่าที่ระดับราคาศูนย์โดยอัตโนมัติ เงื่อนไขมีผลบังคับใช้กับบัญชีเทรดที่มีออเดอร์ดำเนินการโดยผู้รวบรวมราคาตลาดสภาพคล่องของเรา

10. ระดับแก็ป

เป็นเกณฑ์สำหรับการเปิดใช้ฟังก์ชัน Gap mode โดยหากช่องว่างของราคามีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 1 spread จะมีการดำเนินการ Gap mode โดย Dealer (ทั้ง Stop Loss & Take Profit จะดำเนินการในช่วง Gap Price) และจะไม่ได้รับราคา Second tick หลังจาก Gap Mode เกิดขึ้น โปรดทราบ Gap mode จะไม่เกิดขึ้นกับบัญชีเทรดส่งคำสั่งไปยัง MarketPlace และคำสั่ง Pending order ,Take Profit รวมถึง Stop Loss จะได้รับการประมวลผลทันทีที่ราคาตลาดใน Second tick ดังนั้น Slippage อาจเกิดขึ้นได้แม้เพียงแค่ 1 pip

11. ปิดสถานะ/แก็ป

ถ้า Pending order ถูกสร้างขึ้นพร้อมการตั้งค่าจุด Take profit และ/หรือ Stop loss และราคามีการกระโดดข้ามราคาที่ตั้งไว้ และราคา Take profit/Stop loss ยังคงอยู่ในระดับ Gap level ออร์เดอร์นี้จะเปิดด้วยราคา Gap price และหลังจากนั้นจะปิดด้วยราคาตลาด ราคาพร้อมคอมเมนท์ [Closed / Gap] ผลสุดท้ายของออร์เดอร์นี้จะติดลบ 1 Spread

12. เงินปันผล

หากในช่วงเริ่มต้นของเซสชันการเทรด ลูกค้ามีออเดอร์ที่เปิดอยู่ในวันที่ที่ไม่ได้รับเงินปันผล การปรับอัตโนมัติจะนำมาใช้กับจำนวนออเดอร์สุทธิ เครดิตสำหรับออเดอร์ซื้อและเดบิตสำหรับออเดอร์ขาย การปรับมูลค่าสำหรับออเดอร์ซื้อ = จำนวนเงินปันผล (จำนวน) * จำนวนหุ้น * 80% การปรับมูลค่าสำหรับออเดอร์ขาย = จำนวนเงินปันผล (จำนวน) * จำนวนหุ้น *100% 1 การปรับจะไม่มีผลกับออเดอร์ที่เปิดหลังจากเริ่มเซสชันการเทรด โพซิชันจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ หากจำนวนการปรับเดบิตมากกว่ายอดคงเหลือในบัญชี

1 การปรับเปลี่ยนเงินปันผลอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายใต้ดุลยพินิจของบริษัท E-Global Trade & Finance Group, Inc.

Ready to Get Started?

It’s time to step into the market: Sign up today and navigate the world of trading with confidence!

Start trading now